การขับขี่ยานพาหนะช่วงฤดูฝน

978 views
ย่างเข้าฤดูฝนแล้ว การขับขี่ยานพาหนะต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางในการขับขี่อย่างปลอดภัยใน หน้าฝน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ขับขี่ทุกท่าน เราสามารถเตรียมพร้อมและรับมือได้ด้วยวิธีอย่างไรกันบ้าง

  1. การเตรียมสภาพรถ 
     1.1 ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบระบบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีหากโคมแก้วเปื้อนให้เช็ดทำความสะอาดเพื่อให้ความสว่างเพิ่มขึ้น
     1.2 ตรวจสอบอุปกรณ์ใบปัดน้ำฝนให้สามารถปัดกวาดน้ำฝนได้สะอาด ไม่มีรอยฝ้า หรือรอยขูดขีดบนกระจกและเตรียมผ้าแห้งไว้เช็ดฝ้าที่ติดอยู่กระจกภายในรถ
     1.3 หมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอ
     1.4 เลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีดอกยางละเอียดและเติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้วเพื่อให้หน้ายางแข็งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้น
     1.5 ตรวจสอบผ้าเบรกให้สามารถใช้งานได้ดีในสภาพถนนเปียก หากเบรกแล้วรถมีอาการปัดให้จัดการเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่

  2. การขับรถในช่วงฝนตก
     2.1 เปิดใบปัดน้ำฝนโดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา
     2.2 การน้ำฉีดกระจกในช่วงที่ฝนเริ่มตก เนื่องจากน้ำที่กระเด็นจากการดีด จะเหนียวคล้ายโคลน ถึงแม้จะใช้ก้านปัดน้ำฝนปัด ก็ไม่สามารถปัดออกได้หมด จึงควรใช้น้ำฉีดกระจกช่วยชะล้างคราบโคลนเหล่านี้
     2.3 การเปิดไฟหน้า-หลังรถ นอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางดีขึ้น แล้วยังช่วยให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย
     2.4 การลดความเร็ว เนื่องจากช่วงที่ฝนเริ่มตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบดินและฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนน ดังนั้นการลดความเร็วของรถจึงเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และที่สำคัญคือ อย่าขับรถชิดคันหน้ามากเกินไปเพราะสภาพถนนที่เปียกลื่นทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น ผู้ขับขี่ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าการขับขี่ในช่วงปกติ 10-15 เมตร เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันหากขณะขับรถแล้วรถลื่นไถล หรือเหินน้ำ
     2.5 ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันทีเพราะจะทำให้รถพลิกคว่ำได้ ให้ลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะทรงตัวได้แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
     2.6 หากต้องขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ผู้ขับขี่ควรหยุดประเมินสถานการณ์และขับรถผ่านถนนในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังน้อยที่สุดและระมัดระวังในการขับผ่านถนนที่มีลักษณะนูนเป็นหลังเต่า เพราะหากขับรถเบี่ยงออกนอกเส้นทางอาจทำให้รถจมน้ำได้
     2.7 ขับรถโดยใช้เกียร์ต่ำ เร่งเครื่องให้รอบสูงแล้วเหยียบคลัทช์เพื่อให้ความเร็วต่ำ แต่อย่าให้รอบต่ำจะทำให้เครื่องดับกลางน้ำได้
     2.8 ไม่ขับรถเร็วเกินไปเพราะจะทำให้มีน้ำกระเด็นเข้าเครื่องยนต์และอาจกระเด็นโดนคนอื่น
     2.9 หากมีน้ำท่วมสูงอย่าขับรถลุยน้ำโดยเด็ดขาด เพราะรถอาจถูกพัดไปตามกระแสน้ำได้

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้ขับขี่ยานพาหนะต่างๆ ไม่ว่าจะรถเล็กหรือรถใหญ่ รวมถึงรถจักรยานยนต์ด้วยครับ
ทางทีมงาน www.thaisecuritycenter.com ก็ขอให้ทุกท่านขับขี่ด้วยความปลอดภัยครับ
Scroll