พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558

29,057 views

พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ขึ้นทะเบียนบริษัท รปภ. ผบ.ตร. ประธานทุกบริษัท ใช้ชื่อขึ้นต้น “บริษัทรักษาความปลอดภัย” เสียค่าใบอนุญาตฉบับละ 50,000 บาท เป็น ‘พี่ยาม’ ต้องเสีย 1,000 บาท ใช้ต่างด้าวไม่ได้ จบการศึกษาภาคบังคับ

พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 มีเนื้อหาทั้งสิ้น 76 มาตรา ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติในหมวด 1 (คณะกรรมการกํากับธุรกิจรักษาความปลอดภัย) และมาตรา 72 (ในวาระเริ่มแรก ให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา) ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจาก วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สาระสำคัญ ดังนี้

1.ให้มีคณะกรรมการกํากับธุรกิจรักษาความปลอดภัย ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมการปกครองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคผู้อํานวยการสํานักงานกิจการยุติธรรม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย และผู้อํานวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจํานวนหกคนในจํานวนนี้จะต้องเป็น ผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชนที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยไม่น้อยกว่าสองในสามให้ผู้บัญชาการตํารวจนครบาลเป็นกรรมการและเลขานุการและข้าราชการตํารวจยศพันตํารวจตรีขึ้นไปในกองบัญชาการตํารวจนครบาลซึ่งผู้บัญชาการตํารวจนครบาลแต่งตั้งจํานวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ

2.ผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยต้องเป็นบริษัท และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยจากนายทะเบียน (มาตรา 16)

3. บริษัทรักษาความปลอดภัยต้องใช้คํานําหน้าชื่อว่า “บริษัทรักษาความปลอดภัย” และคําว่า “จํากัด” หรือ “จํากัด (มหาชน)” ต่อท้าย แล้วแต่กรณี (มาตรา 20)

4.การให้บริการรักษาความปลอดภัยต้องทําสัญญาเป็นหนังสือระหว่างบริษัทรักษาความปลอดภัยและผู้ว่าจ้าง ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการ 8 ข้อ (มาตรา 25)

5. ให้บริษัทรักษาความปลอดภัยจัดทําบัญชีรายชื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตยื่นต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย (มาตรา 30)

6. ผู้ใดประสงค์จะทําหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตต้องได้รับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตจากนายทะเบียน (มาตรา 33)

7. ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตต้องมีคุณสมบัติ มีสัญชาติไทย มีอายุไม่ต่ํากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ สําเร็จการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ ได้รับหนังสือรับรองว่าได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย จากสถานฝึกอบรมที่นายทะเบียนกลางรับรองตามวรรคสอง

ลักษณะต้องห้าม

 เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังหรือติดยาเสพติดให้โทษหรือเป็นโรคติดต่อที่คณะกรรมการ กําหนด เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถเป็นผู้เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกสําหรับความผิดเกี่ยวกับชีวิต และร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หรือความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด ที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษหรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีก่อนวันขอรับใบอนุญาต และมิใช่ความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตมาแล้ว ยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันยื่นคําขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาต (มาตรา 34)

8. บริษัทรักษาความปลอดภัยจะกําหนดเครื่องแบบของพนักงานรักษาความปลอดภัย รับอนุญาตให้เหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องแบบของทหาร ตํารวจ หรือเครื่องแบบของเจ้าพนักงาน ซึ่งกฎหมายให้มีอํานาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามที่นายทะเบียนกลาง ประกาศกําหนดมิได้ (มาตรา 40)

9.ผู้ใดทําหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา63)

อัตราใบอนุญาต

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยฉบับละ 50,000 บาท
ใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตฉบับละ 1,000 บาท 
ใบแทนในอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยฉบับละ 3,000 บาท
ใบแทนใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตฉบับละ 100 บาท
การต่อใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียม สำหรับในอนุญาตแต่ละฉบับ
**เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ธุรกิจการให้บริการรักษาความปลอดภัย มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน และส่งผลต่อความสงบ เรียบร้อยของสังคม และในปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบธุรกิจการให้บริการรักษาความปลอดภัยเป็นจํานวนมากแต่มีมาตรฐาน ในการประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน สมควรกําหนดมาตรฐานของธุรกิจรักษาความปลอดภัยและมาตรฐานของ พนักงานรักษาความปลอดภัยเพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานธุรกิจรักษาความปลอดภัยและเสริมสร้างศักยภาพ ของพนักงานรักษาความปลอดภัยอันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการและช่วยเสริมสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้**

อ่าน พ.ร.บ. ฉบับเต็ม : 
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/104/24.PDF 
 
Scroll